Love2Test

Love2Test พื้นที่ปลอดภัยเพื่อสุขภาพทางเพศที่คุณเข้าถึงได้ง่ายและมั่นใจ

ปัจจุบันสุขภาพทางเพศเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เนื่องจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) และเชื้อเอชไอวี (HIV) ยังคงส่งผลกระทบในวงกว้าง แม้จะมีความก้าวหน้าในด้านการแพทย์และการรักษา แต่การเข้าถึงบริการตรวจสุขภาพ ความรู้ที่ถูกต้อง และการป้องกันเชิงรุก ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ การจองตรวจที่ love2test การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การรับยา PrEP หรือ PEP เมื่อมีความเสี่ยง รวมถึงการมีความรู้ที่ถูกต้อง จะช่วยปกป้องทั้งตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รู้สถานะเอชไอวี (Know Your Status) เพื่อสุขภาพที่ดี และการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
|

รู้สถานะเอชไอวี (Know Your Status) เพื่อสุขภาพที่ดี และการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

เชื้อเอชไอวี (HIV = Human Immunodeficiency Virus) เป็นไวรัสที่โจมตีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ หากไม่ได้รับการรักษา ไวรัสจะทำลายเซลล์เหล่านี้ไปเรื่อย ๆ ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาส

หากปล่อยให้เชื้อเอชไอวี พัฒนาต่อโดยไม่มีการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะ โรคเอดส์ (AIDS – Acquired Immunodeficiency Syndrome) ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี ที่ระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมียาต้านไวรัส (Antiretroviral Therapy – ART) ที่ช่วยควบคุมปริมาณไวรัสในร่างกาย ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อสามารถมีสุขภาพดี และลดโอกาสแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้

ไขข้อสงสัย Viral Load ทำไมค่าปริมาณไวรัสถึงสำคัญต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี
| |

ไขข้อสงสัย Viral Load: ทำไมค่าปริมาณไวรัสถึงสำคัญต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี

ในวงการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี คำว่า “Viral Load” หรือ “ค่าปริมาณไวรัส” ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แพทย์ใช้ในการประเมินสถานะสุขภาพและประสิทธิภาพของการรักษา แล้วทำไมค่าปริมาณไวรัสถึงมีความสำคัญขนาดนั้น? ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกัน

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ยังไม่สามารถคิดค้นวิธีการรักษาให้หายขาดได้ นั่นก็คือ เอชไอวี (HIV : Human Immunodeficiency Virus) ที่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ติดเชื้อลดลง ทำให้ไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ เป็นสาเหตุของการเกิดโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ ได้ง่ายมากกว่าปกติ อีกทั้งหากไม่เข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วแล้ว จะส่งผลต่อร่างกายทำให้เข้าสู่ระยะรุนแรงที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อว่า ระยะเอดส์ นั่นเอง บทความนี้เราได้รวบรวมคำตอบของทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ “การตรวจเอชไอวี” ที่คัดสรรมาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า พบคำถามเหล่านี้บ่อยครั้งจากหลากหลายแหล่ง รวมไปถึงความเข้าใจผิด ๆ ที่ต้องการให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจไปในทิศทางถูกต้อง ทำไมต้องตรวจเอชไอวี ? เอชไอวี หากทราบสถานะได้เร็วมากเท่าไหร่ โอกาสในการรักษาไม่ให้ลุกลามไปสู่ระยะรุนแรงก็มากด้วยเช่นกัน ดังนั้นการตรวจเอชไอวี จึงเป็นทางเลือกในการป้องกันที่สำคัญไม่แพ้การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั้งยังเป็นการเพิ่มการตระหนักถึงการดูแลตนเองและคู่ของคุณ ดังนั้นจึงทำให้การตรวจเอชไอวี เป็นสิ่งที่จำเป็นและควรทำอย่างยิ่งในทุก ๆ ปีเช่นเดียวกับการตรวจสุขภาพประจำปี เมื่อไหร่ที่ควรเข้ารับการตรวจเอชไอวี? การตรวจเอชไอวี เป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน ด้วยความที่ว่าไม่มั่นใจว่าตนเองนั้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่ ตลอดจนมองว่าการตรวจเอชไอวี ควรเข้ารับการตรวจเมื่อจำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากคุณคือหนึ่งในผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังต่อไปนี้ ควรเข้ารับการตรวจพร้อมทั้งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด การตรวจเอชไอวี ใช้เวลานานหรือไม่ ? ระยะเวลาในการตรวจเอชไอวี ขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจที่เลือกใช้ หากเป็นการตรวจโดยสถานพยาบาลทั่วไปด้วยวิธีการตรวจที่นิยมใช้หลัก ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ระยะเวลาทราบผลได้เร็วที่สุดใน…

ระยะฟักตัวของ HIV เป็นอย่างไร

ระยะฟักตัว ของ HIV เป็นอย่างไร

ระยะฟักตัว เป็นหนึ่งในข้อมูลความรู้เกี่ยวกับไวรัสเอชไอวีที่คุณควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นการเตรียมตัวก่อนตัดสินใจไปตรวจเลือด เนื่องจากสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล มีการตอบสนองต่อเชื้อไวรัสเอชไอวีที่แตกต่างกัน หากระบบภูมิคุ้มกันใช้เวลาในการสร้างมาต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ได้ช้า ผลตรวจเอชไอวีที่ได้ก็ไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่าผู้ตรวจไม่มีเชื้อเอชไอวี ซึ่งควรจะมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง ระยะฟักตัว คืออะไร หรือวินโดว์พีเรียด (Window Period) คือช่วงเวลาที่คุณอาจได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวีมาแล้ว แต่ระบบการทำงานของร่างกาย ยังไม่อาจสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) มาต่อต้านเชื้อได้ทัน พอตรวจเลือดก็ไม่พบเชื้อ โดยระยะฟักตัวนี้ ส่วนใหญ่จะกินระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 3 เดือนที่เราอาจจะไม่พบเชื้อเลย เพราะฉะนั้นการตรวจเลือดโดยไม่ได้คำนึงถึงระยะฟักตัว จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำ ช่วงที่อยู่ในระยะฟักตัว แพร่เชื้อได้หรือไม่ แน่นอนว่าช่วงที่อยู่ในระยะฟักตัวนั้นมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ ยิ่งในกลุ่มเสี่ยงที่ชอบมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย กลุ่มผู้ใช้สารเสพติดด้วยการฉีดเข็มฉีดยา หรือกลุ่มที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ซึ่งระยะฟักตัวแรกๆ ที่เพิ่งได้รับเชื้อมาใหม่นี้ หากใช้วิธีการตรวจเอชไอวีแบบปกติ อาจตรวจไม่พบ เนื่องจากว่าเชื้อนี้มีระยะฟักตัวในการเปลี่ยนแปลงของผลเลือดจากลบเป็นบวก เพราะฉะนั้นถ้าในคนที่มีปัจจัยเสี่ยง และตรวจเลือดครั้งแรกเป็นลบ ก็ควรตรวจ HIV ซ้ำในระยะเวลาถัดมา โดยทั่วไปผู้ป่วยเกือบทั้งหมดประมาณ 95% จะมีผลเลือดเป็นบวก หลังจากที่ได้รับเชื้อมา เพราะฉะนั้นบางส่วนที่ตรวจก่อนหน้านั้นก็จะมีผลเลือดเป็นลบอยู่ และถ้าติดตามไปถึง 1 ปีทั้ง 100% ก็คงจะมีผลเลือดเป็นบวกอยู่ในคนที่ติดเชื้อ ผลลบลวง…

PEP เป๊ป คืออะไร
| |

PEP เป๊ป คืออะไร?

ยาต้านไวรัสเอชไอวีเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งหรือต้านการแบ่งตัวของเชื้อเอชไอวี ช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T-cell มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้สูงสุดถึง 99% หากมีการใช้อย่างถูกวิธี Exposure prophylaxis เป็นยาที่ทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงโรคอื่น โดยก่อนการรับยาต้องมีการประเมินความเสี่ยงจากประวัติของคนไข้ว่าตรงตามเงื่อนไขการรับยาหรือไม่ ประกอบกับการตรวจเลือดตามมาตรฐานสากล(คนไข้ที่จะรับยาจะต้องมีผล HIV เป็นลบ) และยาในกลุ่มนี้ต้องพิจารณาจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น รู้จักยา PEP คืออะไร PEP ย่อมาจาก post-exposture prophylaxis หรือยาต้านฉุกเฉิน ทานหลังจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV  เป็นการรักษาระยะสั้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โดยยาที่ใช้ในกลุ่มนี้เป็นประเภท Nucleoside Reverse Transcriptase Inhibitors (NRTIs) Non-Nucleoside Reverse Transcriptase Inhibitor (NNRTIs) Integrase inhibitor strand transfer inhibitor (INSTs) และ Protease inhibitor(PIs) โดยทานยาครบตามที่แพทย์สั่ง การทานยาเป็ป(PEP)  การทานยา เป็ป(PEP)   จำเป็นต้องทานให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ คือ…

ตรวจ HIV ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป กับชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง INSTI
|

ตรวจ HIV ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป กับชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง INSTI

ใครยังคิดว่าการตรวจเอชไอวีเป็นเรื่องยาก? บทความนี้จะทำให้คุณคิดใหม่และมองการติดเชื้อเอชไอวีเปลี่ยนไป …จากหัวข้อเรื่องคงพอเดาได้แล้วว่า เนื้อหาที่จะมาเจาะลึกกันในวันนี้เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่เชื่อหรือไม่ว่าน้อยคนมากที่จะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะพื้นฐานแล้วยังมีอีกหลายคนมองว่า เอชไอวีคือโรคเอดส์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทั้ง 2 มีความเกี่ยวข้องกันแต่ไม่ใช่โรคเดียวกันตามที่เข้าใจ สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือแง่คิดที่มีต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นไปในทางลบมากกว่า สิ่งเหล่านี้เองเกิดจากการรับข่าวสารและการตีความที่แตกต่างกัน คำถามคือข้อมูลเกี่ยวกับเอชไอวีส่งผลต่อการตรวจเอชไอวีด้วยตนเองอย่างไร ไปติดตามบทความนี้กันเลย! เอชไอวี และ เอดส์ แตกต่างกันอย่างไร? เอชไอวี (HIV) คือเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้ร่างกายไม่สามารถต้านทานต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ตามปกติ ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสลุกลามไปสู่โรคฉวยโอกาสอื่น ๆ ได้นั่นเอง โดยจะแบ่งระยะของผู้ป่วยเอชไอวีออกเป็น 3 ระยะ คือ  ระยะเฉียบพลัน ระยะแรกเริ่มที่ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ โดยส่วนใหญ่มักแสดงอาการมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละบุคคล ทั้งนี้จะอยู่ในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังจากติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งกรณีนี้หากใช้ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง หรือ ตรวจคัดกรองในสถานพยาบาล จะช่วยให้การรักษาทันท่วงทีและรับมือได้เหมาะสมมากที่สุด ระยะสงบทางคลินิก ระยะที่ไม่แสดงอาการที่เห็นได้ชัด แต่บางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคน ระยะนี้อาจใช้เวลานานถึง 10 ปี โดยเชื้อไวรัสเอชไอวีจะค่อย ๆ ทำลายระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายไปเรื่อย ๆ จนลดลงอย่างต่อเนื่อง…

การตรวจ HIV สามารถตรวจได้ด้วยเหตุผลใดบ้าง

การตรวจ HIV สามารถตรวจได้ด้วยเหตุผลใดบ้าง

คนไทยอาจคุ้นเคยกับการตรวจ HIV ว่า ต้องเป็นผู้ที่เสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย หรือว่าไม่ได้ป้องกัน หรือบุคคลนั้นต้องทำงานด้านค้าบริการทางเพศ นั่นทำให้ภาพจำในสังคมไทยต่อการตรวจโรค HIV เป็นด้านลบ  ทั้งที่จริงๆ แล้วการตรวจเชื้อ HIV สามารถตรวจได้ด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้ ตรวจเพื่อวางแผนการมีบุตร สร้างครอบครัว สำหรับชายหญิงที่ต้องการมีบุตรรวมถึงชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง ที่ต้องการมั่นคงกับคู่รักเพื่อมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน การแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า ต้องการ ตรวจHIV เพื่อวางแผนการมีบุตร หรือสร้างครอบครัว ก็เป็นเรื่องปกติ  เราสามารถพบเห็นการแนะนำเพื่อตรวจประเภทนี้ได้ทั่วไปในแผนกสูตินรีเวช ตรวจเพื่อเข้าสมัครงาน หลายบริษัทมีการตรวจเช็คความพร้อมของบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานโดยการให้ตรวจสุขภาพ หนึ่งในนั้นคือ การตรวจเชื้อ HIV  ตรวจเพื่อเช็คสุขภาพ คนไทยอาจไม่คุ้นเคยและมีความเขินอายต่อการเดินเข้าไปขอตรวจเชื้อ HIV หลายคนจึงชอบใช้วิธีบริจาคเลือดเพื่อจะได้ตรวจเช็คว่า เลือดของตนเองนั้นปลอดภัยต่อการบริจาคหรือไม่ แต่วิธีนี้ที่ไม่ถูกต้องและอาจส่งผลเสียต่อผู้อื่นได้ หากเกิดความผิดพลาด หรือยังไม่พ้นระยะฟักตัวของเชื้อที่ทำให้ตรวจพบได้ ดังนั้น การตรวจเช็คและบอกข้อมูลสำคัญต่อเจ้าหน้าที่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใครบ้างที่ควรตรวจ HIV  การ มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน กับคู่นอนที่ไม่ทราบผลเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น การถูกล่วงละเมิดทางเพศ ชายรักชาย บุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่นำไปสู่การติดเชื้อ HIV ได้ หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ป่วยด้วยวัณโรค บทความที่เกี่ยวข้อง…

5 ข้อสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปตรวจเอชไอวี

5 ข้อสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปตรวจเอชไอวี

การเตรียมตัวก่อนตรวจหาเชื้อนั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ขอให้เพียงพร้อมทั้งทางด้านร่างกาย พร้อมทางใจ ทางความคิด นั่นคือ มีความสุขุมสามารถยอมรับฟังผลการตรวจเลือดได้โดยไม่คิดไปในทางร้ายหรือแย่กับตัวเองและคนรอบข้าง เพียงเท่านี้ท่านก็เป็นคนหนึ่งแล้วที่พร้อมกับการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ ได้รับความเสี่ยงมาเกิน 2 สัปดาห์แล้ว เพราะถือเป็นระยะเวลาที่มีโอกาสตรวจพบเชื้อได้แล้วถ้าติดเชื้อมา แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อไปตรวจแล้วในครั้งแรกไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ทางสถานพยาบาลที่ตรววท่านจะนัดให้ท่านทำการตรวจอีกครั้งเมื่อครบ 3 เดือน หรือด้วยเทคโนโลยีใหม่ จะมีการตรวจด้วยวิธี NAT ซึ่งจะสามารถเข้าตรวจ HIV ได้หลังรับความเสี่ยงมาเกินแค่ 1-2 สัปดาห์ มีกำลังใจดี พร้อมรับฟังผลเลือด แน่นอนว่าใครได้รับความเสี่ยงมาก็เครียดกันทั้งนั้น แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราพยายามทำความเข้าใจกับมันว่า มันเกิดไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ มีสติ มีปัญญา ทำจิตใจให้เป็นปกติ มีความสุขกับเรื่องเล็กๆให้ได้ และศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคนี้ให้มากขึ้น ให้รู้ว่า โรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย ถ้ารู้วิธีอยู่กับมัน รู้ตัวและทราบถึงคุณค่าของตัวเอง คนส่วนใหญ่พอเจอเรื่องผิดพลาดในชีวิต ก็จะเอาแต่คอยด่าว่าตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่ผิด คนบางคนทำเรื่องดีดีมามากมายแต่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็โดนคนรอบข้างต่อว่าจนนอยด์ แต่ในความจริงแล้วเราควรรู้ตัวเราเอง ว่าครั้งนี้เราพลาดก็จริง แต่พลาดเพราะอะไรหล่ะ ครั้งหน้าจะทำอย่างไรไม่ให้พลาดแบบนี้อีก แล้วเราก็ต้องฉุกคิดให้ได้ว่าความดีที่ผ่านมาของเรามีประโยชน์ต่อคนรอบข้างแค่ไหน คนทุกคนมีคุณค่าในตัวเองเสมอ รู้ตัวเร็ว รักษาเร็ว ด้วยเทคโนโลยีและวงการวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มีการพัฒนาตัวยาต้านเชื้อไวรัสที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นความจริงที่เก่าเกินไปแล้วว่าคนเป็นเอดส์แล้วตายเร็ว ในปัจจุบันคนติดเชื้อ…

เสี่ยง – ไม่เสี่ยงก็ต้องตรวจเอชไอวี
| |

เสี่ยง – ไม่เสี่ยงก็ต้องตรวจเอชไอวี

ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเชื้อเอชไอวี (HIV) แม้ปัจจุบันนี้ข่าวคราวเกี่ยวกับโรคเอดส์จะเงียบหายไป แต่จำนวนผู้ติดเชื้อตอนนี้กลับไม่ได้เงียบหายตามข่าว ดังนั้น หน่วยงานต่างๆ จึงร่วมกันส่งเสริมให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับเชื้อตัวนี้ ไม่ว่าคุณจะมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือไม่เสี่ยง ยังไงเราก็แนะนำว่าทุกคนควรต้องตรวจเอชไอวีอยู่ดี ตรวจเลือดเป็นประจำ ตรวจเลือดเป็นประจำทุก 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์หรือความถี่ในการสัมผัสสารคัดหลั่ง… “ทุกวันนี้ เอชไอวี ตรวจฟรี ตรวจเร็ว โดยให้คนไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก สามารถ ตรวจเอชไอวีได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง ทุกโรงพยาบาลที่ให้บริการภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้รวดเร็วและแม่นยำ และควรตรวจหาเชื้อเอชไอวีหลังจากมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไม่สวมถุงยางอนามัยหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ประมาณ 1 เดือน เมื่อทราบผลว่าไม่ติดเชื้อเอชไอวี จะได้รับการปรึกษาเรื่องการป้องกัน การติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ต่อไป หากพบการติดเชื้อเอชไอวี จะได้เข้ารับการรักษาโดยเร็ว” รู้เร็ว รักษาเร็ว ใช้ชีวิตได้ปกติ เอชไอวี รู้เร็ว ยังมีโอกาสใช้ชีวิตได้ปกติแต่หากเข้ารักษาล่าช้า จะเริ่มป่วยและมีอาการของโรคแทรกซ้อนตามมา ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันต่ำ เกิดโรคเรื้อรังได้ง่าย แล้วเชื้อเอชไอวีในร่างกายจะเพิ่มขึ้น จนถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีไปสู่คู่นอนและผู้อื่นได้ อย่ากังวลและเครียดจนเกินเหตุ สำหรับผู้ที่ทราบถึงภาวะการติดเชื้อแล้ว…