คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ยังไม่สามารถคิดค้นวิธีการรักษาให้หายขาดได้ นั่นก็คือ เอชไอวี (HIV : Human Immunodeficiency Virus) ที่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ติดเชื้อลดลง ทำให้ไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้ เป็นสาเหตุของการเกิดโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ ได้ง่ายมากกว่าปกติ อีกทั้งหากไม่เข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วแล้ว จะส่งผลต่อร่างกายทำให้เข้าสู่ระยะรุนแรงที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อว่า ระยะเอดส์ นั่นเอง

บทความนี้เราได้รวบรวมคำตอบของทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ “การตรวจเอชไอวี” ที่คัดสรรมาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า พบคำถามเหล่านี้บ่อยครั้งจากหลากหลายแหล่ง รวมไปถึงความเข้าใจผิด ๆ ที่ต้องการให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจไปในทิศทางถูกต้อง

ทำไมต้องตรวจเอชไอวี ?

เอชไอวี หากทราบสถานะได้เร็วมากเท่าไหร่ โอกาสในการรักษาไม่ให้ลุกลามไปสู่ระยะรุนแรงก็มากด้วยเช่นกัน ดังนั้นการตรวจเอชไอวี จึงเป็นทางเลือกในการป้องกันที่สำคัญไม่แพ้การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั้งยังเป็นการเพิ่มการตระหนักถึงการดูแลตนเองและคู่ของคุณ ดังนั้นจึงทำให้การตรวจเอชไอวี เป็นสิ่งที่จำเป็นและควรทำอย่างยิ่งในทุก ๆ ปีเช่นเดียวกับการตรวจสุขภาพประจำปี

เมื่อไหร่ที่ควร เข้ารับการตรวจเอชไอวี

เมื่อไหร่ที่ควรเข้ารับการตรวจเอชไอวี?

การตรวจเอชไอวี เป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน ด้วยความที่ว่าไม่มั่นใจว่าตนเองนั้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่ ตลอดจนมองว่าการตรวจเอชไอวี ควรเข้ารับการตรวจเมื่อจำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากคุณคือหนึ่งในผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังต่อไปนี้ ควรเข้ารับการตรวจพร้อมทั้งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด

Love2test
  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย
  • ผู้ป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ 
  • ผู้ป่วยวัณโรค
  • ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับบุคคลอื่น
  • ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือ ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยขาดสติ
  • ผู้ที่ต้องการวางแผนมีครอบครัว

การตรวจเอชไอวี ใช้เวลานานหรือไม่ ?

ระยะเวลาในการตรวจเอชไอวี ขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจที่เลือกใช้ หากเป็นการตรวจโดยสถานพยาบาลทั่วไปด้วยวิธีการตรวจที่นิยมใช้หลัก ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ระยะเวลาทราบผลได้เร็วที่สุดใน 1 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการระยะเวลาที่แน่นอน แนะนำให้ปรึกษากับสถานพยาบาลนั้น ๆ เพื่อสอบถามโดยตรงจึงจะดีที่สุด

การตรวจเอชไอวี จะพิจารณาจากระยะความเสี่ยงต่อการติดเชื้อครั้งล่าสุด ดังนั้นการให้ข้อมูลโดยละเอียดต่อแพทย์ถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพิจารณา วิธีการตรวจด้วยเช่นกัน เพื่อประสิทธิภาพการตรวจที่แม่นยำ และระยะเวลาในการทราบผลที่เหมาะสม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยตรงก่อนตรวจเอชไอวี

“ChatLove2test"
หลังจากทราบผลว่า ติดเชื้อเอชไอวีควรทำอย่างไร

หลังจากทราบผลว่าติดเชื้อเอชไอวีควรทำอย่างไร ?

สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้หลังจากเข้ารับการตรวจเอชไอวี นั่นก็คือผลการตรวจที่มีอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ ไม่ติดเชื้อเอชไอวี และติดเชื้อเอชไอวี ในกรณีที่ได้รับผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่ว่าคุณมีเชื้อเอชไอวีในร่างกาย เจ้าหน้าที่ซึ่งได้ผ่านการอบรมมาอย่างเป็นทางการแล้ว จะให้คำแนะนำกับคุณและเปิดโอกาสให้คุณได้ปรึกษาเกี่ยวกับการรักษา การรับมือด้านการดูแลตนเอง ตลอดจนการชี้แจงต่อคนในครอบครัวให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้คุณควรตั้งสติให้ได้มากที่สุดโดยเปิดใจรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ พร้อมกับนั้นควรปฏิบัติตามข้อแนะนำต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้คุณเข้าสู่กระบวนการรักษาเอชไอวีได้อย่างเหมาะสม ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติอย่างคนทั่วไป รวมถึงควรตระหนักไว้เสมอว่าการป้องกันตนเองไม่ให้แพร่เชื้อเอชไอวีไปสู่บุคคลอื่น คือสิ่งควรทำอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตหลังจากนี้ ควบคู่ไปกับการดูแลตนเองและการรักษาอย่างต่อเนื่อง 

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Similar Posts

  • ระยะฟักตัว ของ HIV เป็นอย่างไร

    ระยะฟักตัว เป็นหนึ่งในข้อมูลความรู้เกี่ยวกับไวรัสเอชไอวีที่คุณควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นการเตรียมตัวก่อนตัดสินใจไปตรวจเลือด เนื่องจากสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล มีการตอบสนองต่อเชื้อไวรัสเอชไอวีที่แตกต่างกัน หากระบบภูมิคุ้มกันใช้เวลาในการสร้างมาต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ได้ช้า ผลตรวจเอชไอวีที่ได้ก็ไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่าผู้ตรวจไม่มีเชื้อเอชไอวี ซึ่งควรจะมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง ระยะฟักตัว คืออะไร หรือวินโดว์พีเรียด (Window Period) คือช่วงเวลาที่คุณอาจได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวีมาแล้ว แต่ระบบการทำงานของร่างกาย ยังไม่อาจสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) มาต่อต้านเชื้อได้ทัน พอตรวจเลือดก็ไม่พบเชื้อ โดยระยะฟักตัวนี้ ส่วนใหญ่จะกินระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 3 เดือนที่เราอาจจะไม่พบเชื้อเลย เพราะฉะนั้นการตรวจเลือดโดยไม่ได้คำนึงถึงระยะฟักตัว จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำ ช่วงที่อยู่ในระยะฟักตัว แพร่เชื้อได้หรือไม่ แน่นอนว่าช่วงที่อยู่ในระยะฟักตัวนั้นมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ ยิ่งในกลุ่มเสี่ยงที่ชอบมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย กลุ่มผู้ใช้สารเสพติดด้วยการฉีดเข็มฉีดยา หรือกลุ่มที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ซึ่งระยะฟักตัวแรกๆ ที่เพิ่งได้รับเชื้อมาใหม่นี้ หากใช้วิธีการตรวจเอชไอวีแบบปกติ อาจตรวจไม่พบ เนื่องจากว่าเชื้อนี้มีระยะฟักตัวในการเปลี่ยนแปลงของผลเลือดจากลบเป็นบวก เพราะฉะนั้นถ้าในคนที่มีปัจจัยเสี่ยง และตรวจเลือดครั้งแรกเป็นลบ ก็ควรตรวจ HIV ซ้ำในระยะเวลาถัดมา โดยทั่วไปผู้ป่วยเกือบทั้งหมดประมาณ 95% จะมีผลเลือดเป็นบวก หลังจากที่ได้รับเชื้อมา เพราะฉะนั้นบางส่วนที่ตรวจก่อนหน้านั้นก็จะมีผลเลือดเป็นลบอยู่ และถ้าติดตามไปถึง 1 ปีทั้ง 100% ก็คงจะมีผลเลือดเป็นบวกอยู่ในคนที่ติดเชื้อ ผลลบลวง…

  • วิธีป้องกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

    แน่นอนว่า เซ็กส์ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์ต้องมี แต่ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ได้ป้องกันตัวเอง หรือมีการพลั้งเผลอไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เราทุกคนจึงควรเรียนรู้วิธีการที่จะมีเซ็กส์อย่างปลอดภัย และห่างไกลจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย เพราะไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวคุณเองทั้งนั้น วันนี้ ลองมาอ่านบทความนี้กันดีกว่าว่าคุณจะสามารถเซฟตัวเองไม่ให้เข้าใกล้โรคร้ายได้อย่างไรบ้าง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีอะไรบ้าง โดยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกพบมากที่สุด ได้แก่ เอชไอวี เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ Human Immunodeficiency Virus (ฮิวแมนอิมมิวโนเดฟีเชียนซีไวรัส) เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง จนไม่อาจต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีระยะฟักตัวตั้งแต่ 2-6 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะตรวจพบเชื้อ หรือขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจที่เลือกด้วย ปัจจุบันสามารถตรวจแบบแนท (NAT) ที่หลังมีความเสี่ยงประมาณ 5-7 วัน โรคหนองในแท้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Neisseria Gonorrhoeae (ไนซ์ซีเรีย โกโนร์เรีย) อาจมีอาการเกิดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจากติดเชื้อ ในเพศหญิง จะเกิดอาการตกขาวผิดปกติ มีเลือดออกบริเวณช่องคลอด รู้สึกแสบเวลาปัสสาวะ ส่วนในเพศชาย จะมีหนองสีเขียวหรือเหลืองไหลออกมาจากปลายอวัยวะเพศ ลูกอัณฑะบวม และเจ็บเวลาปัสสาวะ เป็นต้น โรคหนองในเทียม เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ…

  • วัยรุ่นในปัจจุบัน มีแนวโน้มติดเชื้อเอชไอวี เพิ่มมากขึ้น

    กรมอนามัย เตือนวัยรุ่นให้มีสติ รู้จักป้องกันการตั้งครรภ์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หลังพบวัยรุ่นมีแนวโน้มติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น พร้อมแนะวิธีปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยง

  • จะทำอย่างไร ถ้ามีเซ็กส์กับ คนติดเชื้อ HIV

    เรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติที่คนทุกคนจะมีได้ แต่จะทำอย่างไรหากคุณมีเพศสัมพันธ์กับ คนติดเชื้อ HIV เพราะคู่นอนที่เรารู้จักก็อาจจะไม่ได้ซื่อสัตย์กับเรา ไม่ได้บอกความจริงเกี่ยวกับสถานะเอชไอวีของตัวเอง หรือบางคู่เป็นคนที่มีความเสี่ยงบ่อยอยู่แล้ว ทำให้เราไม่แน่ใจว่า ได้พลั้งเผลอมีอะไรกับ คนติดเชื้อ HIV ไปหรือไม่ วันนี้ เรามีคำแนะนำหากคุณมีความเสี่ยงมาฝากกันครับ ทำอย่างไร ถ้าเผลอมีเซ็กส์กับ คนติดเชื้อ HIV หากรู้แน่แล้ว หรือสงสัยว่าคู่นอนเป็นคนที่มีเชื้อเอชไอวี คุณควรพิจารณาว่า ขณะที่มีเพศสัมพันธ์ได้ทำการป้องกันตัวเองด้วยถุงยางอนามัยหรือไม่ หรือก่อนหน้านี้คุณเองได้มีการรับประทานยาเพร็พ (PrEP) ที่เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวีก่อนมีความเสี่ยงไว้ก่อนไหม เพราะปัจจัยเหล่านี้ มีผลต่อการวินิจฉัยของแพทย์ และช่วยลดเปอร์เซนต์ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อลงไปได้มาก แต่หากคุณไม่ได้มีการป้องกันตัวเองด้วยวิธีใดเลย คุณควรปฏิบัติดังต่อไปนี้ รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อขอรับบริการยาเป๊ป ยาเป๊ป (PEP) เป็นยาต้านฉุกเฉิน สำหรับคนที่มีความเสี่ยงต่อเอชไอวี ในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยกับคนที่มีเชื้อเอชไอวีหรือถุงยางอนามัยแตกรั่วในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ รวมไปถึง ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกข่มขืน หรือถูกอุบัติเหตุเข็มทิ่มตำในสถานพยาบาล หากเข้าข่ายดังที่กล่าวมานี้ ควรติดต่อสถานพยาบาลที่ให้บริการยาเป๊ป (PEP) โดยเร็ว ซึ่งการรับประทานยาเป๊ปจะใช้เวลาประมาณ 28 วัน หรือตามแพทย์สั่งจ่ายยาให้ โดยการทำงานของยาเป๊ป คือ…

  • ความเครียดทางอารมณ์ ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี

    เอชไอวีและ ความเครียดทางอารมณ์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง โดยผู้ที่มีเชื้อจะมีความเสี่ยงสูงต่ออาการที่จะนำความเครียดทางอารมณ์มาสู่สภาพจิตใจ บทความนี้ จะอธิบายถึงความเสียหายในการมีความเครียดทางอารมณ์ที่มาพร้อมกับเชื้อไวรัสเอชไอวี และกล่าวถึงความสำคัญ ของการขจัดสิ่งนี้ออกไป เพื่อปรับปรุงสุขภาพจิตของผู้ที่มีเชื้อให้ดีขึ้น

  • กลัวผลตรวจเอชไอวี ปัญหาที่ทำให้คนไม่กล้าเผชิญความจริง

    ความกลัวผลตรวจเอชไอวีเป็นหนึ่งในสาเหตุใหญ่ที่ทำให้หลายคนลังเลหรือเลื่อนการตรวจออกไป ทั้งที่การตรวจคือกุญแจสำคัญในการป้องกันการแพร่เชื้อ และรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ความกลัวนี้เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งความไม่รู้ ความเข้าใจผิด ความอาย และความกังวลต่อสายตาสังคม เมื่อผนวกเข้ากับทัศนคติที่ตีตราผู้ติดเชื้อ ปัญหานี้ยิ่งกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากเอชไอวี