Pride กับสิทธิ ยังมีอะไรที่ LGBTQ+ ต้องเรียกร้องในปี 2025?
เมื่อเสียงเพลงในขบวนพาเหรด Pride ดังขึ้น ธงสีรุ้งโบกสะบัด และผู้คนต่างออกมาแสดงความเป็นตัวตน หลายคนอาจคิดว่า เราชนะแล้ว หรือ LGBTQ+ มีสิทธิเท่าเทียมแล้ว ในประเทศไทย แต่ในความจริง ปี 2025 ยังเต็มไปด้วยประเด็นด้านสิทธิที่คนหลากหลายทางเพศยังคงต้องต่อสู้ และเรียกร้อง
Pride ไม่ใช่เพียงงานเฉลิมฉลอง แต่มันคือ การต่อสู้ที่ยังไม่จบ นี่คือเวลาที่เราต้องย้อนกลับมาถามว่า ในประเทศที่ดูเหมือนเปิดกว้าง เราเหลือสิ่งใดที่ยังไม่ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย ความยุติธรรม หรือในชีวิตจริง?

Pride ไม่ใช่แค่พาเหรด แต่คือ การยืนยันสิทธิของมนุษย์
ความหมายที่แท้จริงของ Pride Month ไม่ได้หยุดอยู่ที่สีสันบนถนน หรือภาพในโซเชียลมีเดีย แต่มันคือ การเรียกร้องสิทธิอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังคงเป็นเรื่องจริงสำหรับ LGBTQ+ ทั่วโลก
ในบริบทของประเทศไทย แม้เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น การยอมรับทางสังคมที่เพิ่มขึ้น หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่สิทธิมนุษยชน ของคนหลากหลายทางเพศยังไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างแท้จริง
สมรสเท่าเทียม ผ่านมาไกล แต่ยังไม่ถึงปลายทาง
แม้ในปี 2024 ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม จะได้รับการพิจารณาในรัฐสภา และเป็นที่ยอมรับในหลักการ แต่ในปี 2025 ยังไม่มีการบังคับใช้จริงตามกฎหมาย
ประเด็นที่ยังเป็นปัญหา
- ยังไม่มีการแก้ไขคำว่า ชาย และหญิง ในกฎหมายแพ่งให้ครอบคลุมทุกเพศ
- การรับรองสิทธิในการรับมรดก สวัสดิการคู่สมรส และสิทธิพ่อแม่ยังมีข้อจำกัด
- ครอบครัว LGBTQ+ ยังไม่สามารถจดทะเบียนร่วมกันอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่
การต่อสู้เรื่องสมรสเท่าเทียมจึงยังต้องดำเนินต่อ ทั้งในเชิงกฎหมาย และสังคม
พ.ร.บ. รับรองเพศ สิทธิในการเป็น ตัวเอง บนบัตรประชาชน
ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรับรองการเปลี่ยนเพศตามอัตลักษณ์ของตนเองในเอกสารราชการ เช่น บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง แม้จะได้รับการผ่าตัด หรือใช้ฮอร์โมนแล้วก็ตาม
ผลกระทบของการไม่มี พ.ร.บ. รับรองเพศ
- หญิงข้ามเพศยังต้องใช้คำนำหน้า นาย
- คนข้ามเพศอาจถูกเลือกปฏิบัติในการสมัครงาน การใช้บริการธนาคาร หรือแม้แต่เข้าห้องน้ำสาธารณะ
- เด็กข้ามเพศไม่มีพื้นที่ปลอดภัยในระบบการศึกษา
กฎหมายนี้จึงเป็นเรื่องของ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ไม่ใช่แค่เรื่องทางเทคนิค
สิทธิด้านแรงงาน ยังถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน
แม้หลายองค์กรในภาคเอกชนจะเริ่มมีนโยบาย Diversity & Inclusion แต่ในภาพรวม LGBTQ+ ยังเผชิญกับปัญหา
- ถูกปฏิเสธงานเพียงเพราะอัตลักษณ์ทางเพศ
- ไม่มีสิทธิลาเพื่อแปลงเพศ หรือใช้ฮอร์โมน
- ถูกกลั่นแกล้ง หรือคุกคามทางเพศในที่ทำงาน
- ไม่มีระบบร้องเรียนที่ปลอดภัยในกรณีถูกเลือกปฏิบัติ
ประเทศไทยยังขาดกฎหมายเฉพาะในการคุ้มครองแรงงาน LGBTQ+ ทำให้ความไม่เท่าเทียมฝังแน่นอยู่ในองค์กรจำนวนมาก

สิทธิในการมีลูก กฎหมายไทยยังไม่เท่าเทียม
ในปี 2025 คู่รัก LGBTQ+ ยังไม่สามารถ
- จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน
- มีสิทธิในการอุ้มบุญ (surrogacy)
- มีสิทธิทางกฎหมายในการดูแลเด็กที่เกิดจากคู่ของตน
นี่คืออีกหนึ่งด้านของการ “ถูกกีดกันจากการมีครอบครัว” และสะท้อนว่าคำว่า “ความเท่าเทียม” ยังไม่ครอบคลุมจริง
การศึกษา ระบบโรงเรียนยังเป็นพื้นที่อันตราย
กลุ่มนักเรียน LGBTQ+ ยังถูกละเลย และบางครั้งถูกทำร้ายในสถานศึกษา เช่น
- ถูกบังคับให้แต่งกายตามเพศกำเนิด
- ไม่มีเนื้อหาเรื่องเพศที่ครอบคลุม LGBTQ+
- ถูกกลั่นแกล้ง (bullying) โดยไม่มีการป้องกัน
- ไม่มีพื้นที่ในการแสดงออกถึงตัวตน เช่น ไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อที่ต้องการ
โรงเรียนควรเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ไม่ใช่สถานที่ที่ทำลายความภาคภูมิใจในตัวตน
การเข้าถึงบริการสุขภาพ อุปสรรคที่ยังมีอยู่
LGBTQ+ ยังเผชิญปัญหาหลายด้านในการเข้าถึงบริการสุขภาพ
- ผู้ให้บริการขาดความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ
- ไม่มีบริการที่เหมาะสมกับเพศสภาพ เช่น คลินิกสุขภาพทางเพศสำหรับคนข้ามเพศ
- ถูกตีตราหรือดูหมิ่นจากบุคลากรทางการแพทย์
- ไม่สามารถเข้าถึง PrEP, PEP หรือบริการตรวจสุขภาพเพศสัมพันธ์ที่เป็นมิตร
การมีระบบบริการสุขภาพที่ไม่ตัดสินเพศ คือ หัวใจสำคัญของสุขภาพที่เท่าเทียม
คนข้ามเพศกับระบบราชการ ถูกมองข้ามโดยสิ้นเชิง
คนข้ามเพศในไทยยังไม่มี
- สิทธิเปลี่ยนคำนำหน้าในเอกสาร
- สิทธิรับราชการหรือเป็นข้าราชการในเพศสภาพที่ตนเป็น
- สิทธิเข้ากองทัพหรือการเกณฑ์ทหารที่เหมาะสม
- สวัสดิการของรัฐที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพเฉพาะทาง เช่น การผ่าตัดแปลงเพศ
การเพิกเฉยของรัฐต่อสิทธิเหล่านี้ คือการผลักให้คนกลุ่มหนึ่งอยู่ในความเงียบอย่างไม่เป็นธรรม
ความรุนแรง และการตีตรา: เรื่องที่ยังเกิดขึ้นทุกวัน
การเลือกปฏิบัติ และความรุนแรงต่อ LGBTQ+ ยังเกิดขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ เช่น
- การล้อเลียนหรือละเมิดสิทธิในพื้นที่สาธารณะ
- ความรุนแรงทางเพศในคู่รักเพศเดียวกันที่ไม่ถูกนับว่าเป็น “ปัญหา”
- การเลือกปฏิบัติจากครอบครัวหรือชุมชน
- การไม่ยอมรับในชุมชนศาสนา
สิ่งเหล่านี้ทำให้ LGBTQ+ หลายคนยังต้องใช้ชีวิตแบบ “ระวังตัว” แม้อยู่ในประเทศที่ถูกมองว่าเปิดกว้าง
Pride 2025 คืออะไร ถ้าไม่ใช่การเรียกร้อง?
Pride Month ในปี 2025 ควรจะเป็น
- เวทีของการผลักดันนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม
- พื้นที่ปลอดภัยของคนที่ยังไม่กล้าเปิดเผยตัวตน
- จุดรวมพลังของการเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน
- เสียงที่บอกสังคมไทยว่า “เรายังไม่เท่าเทียม และเรายังไม่ยอมแพ้”
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วัยรุ่นไทยยุคใหม่ต้องรู้ ความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และวิธีดูแลตนเอง
เมื่อจิตใจต้องการการเยียวยา: ภาวะซึมเศร้าในผู้ติดเชื้อเอชไอวี
Pride Month ไม่ได้เป็นเพียงภาพสวยที่เราเห็นในอินสตาแกรม หรือเสียงเพลงจากคอนเสิร์ตกลางถนน แต่มัน คือ การเริ่มต้นของคำถามสำคัญที่สังคมต้องร่วมกันตอบว่า เรามีสิทธิเสมอภาคแล้วจริงหรือ? คำตอบในปี 2025 ยังไม่ใช่ “ใช่” อย่างเต็มปาก เพราะความเสมอภาคยังไม่เกิดขึ้นกับทุกคนอย่างแท้จริง และนั่นคือเหตุผลที่เรายังต้องเดินหน้า—ด้วยธงสีรุ้งในมือ และด้วยความหวังในใจที่ยังไม่ดับ
เอกสารอ้างอิง
- Equaldex. LGBT Rights in Thailand. รวมข้อมูลสถานะทางกฎหมายและสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.equaldex.com/region/thailand
- Outright International. Thailand. ข้อมูลสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://outrightinternational.org/our-work/asia/thailand
- Wikipedia. สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย. ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมาย สถานะทางสังคม และความเคลื่อนไหวของ LGBTQ+ ในประเทศไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://th.wikipedia.org/wiki/สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย
- The Guardian. ‘I am so proud’: Joy as Thailand’s same-sex couples can marry at last. รายงานเกี่ยวกับความรู้สึกของคู่รัก LGBTQ+ หลังร่างสมรสเท่าเทียมผ่าน. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.theguardian.com/world/2025/jan/23/thailand-same-sex-gay-marriage-equality-laws
- AP News. Thailand legalizes same-sex marriage, allows couples to wed starting in January. ข่าวเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://apnews.com/article/e0df9fa2d38afc81c53dda81ce489be5



