ตรวจ HIV ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป กับชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง INSTI

beefhunt หาคู่

ใครยังคิดว่าการตรวจเอชไอวีเป็นเรื่องยาก? บทความนี้จะทำให้คุณคิดใหม่และมองการติดเชื้อเอชไอวีเปลี่ยนไป …จากหัวข้อเรื่องคงพอเดาได้แล้วว่า เนื้อหาที่จะมาเจาะลึกกันในวันนี้เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่เชื่อหรือไม่ว่าน้อยคนมากที่จะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะพื้นฐานแล้วยังมีอีกหลายคนมองว่า เอชไอวีคือโรคเอดส์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทั้ง 2 มีความเกี่ยวข้องกันแต่ไม่ใช่โรคเดียวกันตามที่เข้าใจ สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือแง่คิดที่มีต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นไปในทางลบมากกว่า สิ่งเหล่านี้เองเกิดจากการรับข่าวสารและการตีความที่แตกต่างกัน คำถามคือข้อมูลเกี่ยวกับเอชไอวีส่งผลต่อการตรวจเอชไอวีด้วยตนเองอย่างไร ไปติดตามบทความนี้กันเลย!

เอชไอวี และ เอดส์ แตกต่างกันอย่างไร?

เอชไอวี (HIV) คือเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้ร่างกายไม่สามารถต้านทานต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ตามปกติ ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสลุกลามไปสู่โรคฉวยโอกาสอื่น ๆ ได้นั่นเอง โดยจะแบ่งระยะของผู้ป่วยเอชไอวีออกเป็น 3 ระยะ คือ 

ระยะเฉียบพลัน

ระยะแรกเริ่มที่ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ โดยส่วนใหญ่มักแสดงอาการมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละบุคคล ทั้งนี้จะอยู่ในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังจากติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งกรณีนี้หากใช้ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง หรือ ตรวจคัดกรองในสถานพยาบาล จะช่วยให้การรักษาทันท่วงทีและรับมือได้เหมาะสมมากที่สุด

ระยะสงบทางคลินิก

ระยะที่ไม่แสดงอาการที่เห็นได้ชัด แต่บางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคน ระยะนี้อาจใช้เวลานานถึง 10 ปี โดยเชื้อไวรัสเอชไอวีจะค่อย ๆ ทำลายระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายไปเรื่อย ๆ จนลดลงอย่างต่อเนื่อง

ระยะสุดท้าย (ระยะเอดส์ : AID)

เป็นระยะที่เรียกว่า เอดส์ อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ ว่าระยะนี้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากที่สุด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายอย่างรุนแรง หากตรวจเอชไอวีแล้วพบว่าผู้ป่วยอยู่ในระยะนี้ แพทย์จะต้องทำการรักษาตามอาการและหลีกเลี่ยงโอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อนให้ได้มากที่สุด

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเอดส์และเอชไอวีมีความแตกต่างกัน โดยมีวิธีการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพคือการตรวจเอชไอวีเป็นประจำ เพื่อให้รู้เท่าทันและรับมือได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันมีชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองที่เข้าถึงได้ง่าย เพียงแค่ 1 นาทีก็ทราบผลเลือดได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังช่วยลดข้อจำกัดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจไม่เข้าตรวจเอชไอวี ในสถานพยาบาลได้เป็นอย่างดี

การตรวจเอชไอวีด้วยตนเองต่างกับการตรวจในสถานพยาบาลหรือไม่?

แน่นอนว่าการตรวจเอชไอวีด้วย ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงการตรวจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นเพียงการตรวจคัดกรองเท่านั้น ซึ่งอาจจะต้องเข้ารับการตรวจยืนยันจากสถานพยาบาลอีกครั้ง โดยความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ ขั้นตอนการตรวจ หากเข้ารับการตรวจจากแพทย์ผู้ตรวจจะได้รับคำปรึกษาและสอบถามความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อพิจารณารูปแบบการตรวจให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง ในส่วนของการใช้ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ผู้ตรวจจะต้องทำการตรวจด้วยตนเอง จึงอาจมีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะจากความผิดพลาดหรือความไม่สมบูรณ์ของชุดตรวจ

ทำไมการตรวจเอชไอวีเป็นประจำจึงเป็นเรื่องที่ง่ายและดีต่อตนเอง

การตรวจเอชไอวีในปัจจุบันเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่โรคเอดส์เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาที่ผ่านไปการคิดค้นแนวทางการรักษาให้หายขาดยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดวงการแพทย์สามารถรักษาให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อได้อย่างปกติ ทั้งนี้ยังมีการคิดค้นชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้ที่มีความเสี่ยงเข้าถึงการตรวจคัดกรองได้ง่ายในราคาที่จับต้องได้ มีการออกแบบให้ใช้งานได้สะดวกเข้าใจง่าย ดังนั้นการตรวจเอชไอวีเป็นประจำจึงส่งผลดีต่อการป้องกันที่ดีที่สุด กรณีที่พบเชื้อเร็วก็ส่งผลดีต่อการรักษาที่เร็วด้วยเช่นกัน ตลอดจนเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คู่นอนหรือบุคคลอื่นได้อีกด้วย

ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง INSTI หนึ่งในชุดตรวจที่ได้มาตรฐานระดับโลก

หากใครที่กำลังมองหาชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองที่ได้มาตรฐาน และจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แนะนำว่าชุดตรวจเอชไอวี INSTI คือหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่า เพราะนอกจากจะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานในไทยแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าเป็นชุดตรวจเอชไอวีที่ มีประสิทธิภาพสามารถทราบผลได้ใน 1 นาที โดยการเจาะเลือดจากปลายนิ้วเพียง 1 หยดเท่านั้น 

ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง อินสติ INSTI ตรวจเองได้ง่าย ๆ จริงหรือ?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อสงสัยนี้เกิดขึ้นกับทุกคนที่กำลังตัดสินใจใช้งานชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง อินสติ INSTI รวมไปถึงผู้ที่ต้องการตรวจด้วยชุดตรวจอื่น ๆ ที่มีจำหน่ายทั่วไป จากการนำเสนอของคุณสมบัติของชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองหลากหลายผู้ผลิต อาจส่งผลต่อความมั่นใจมากน้อยแตกต่างกันไป เพราะด้วยสาเหตุหลักคือรูปแบบการตรวจที่มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบเจาะเลือดและแบบตรวจจากน้ำลาย รวมไปถึงระยะเวลาในการทราบผลที่แตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน จึงทำให้เกิดความสับสนต่อข้อเท็จจริงจนนำไปสู่ความกังวลใจในการเลือกใช้ในที่สุด ดังนั้นในเนื้อหาต่อไปนี้เราได้รวบรวมความรู้ต่าง ๆ เพื่อให้ทำความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น

จากเนื้อหาที่กล่าวมาทั้งหมดแสดงให้เห็นแล้วว่า การตรวจเอชไอวีไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป ทั้งการตรวจกับทางสถานพยาบาล ที่ให้สิทธิสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับคนไทย สามารถเข้ารับการตรวจเอชไอวีในโรงพยาบาลของรัฐได้ 2 ครั้งต่อปี หรือ ทางเลือกใหม่ด้วยการใช้ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง นับว่าเป็นแนวทางการป้องกันเอชไอวีที่ช่วยให้มั่นใจได้อย่างครอบคลุม

บทความที่เกี่ยวข้อง :