ความเครียดทางอารมณ์ เป็นประสบการณ์ที่พบได้บ่อยสำหรับคนทั่วไป แต่มันอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น สำหรับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี เพราะเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการ การดูแลจากแพทย์และการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการตีความในสังคมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สามารถทำให้ผู้ติดเชื้อมีความเครียดเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ต้องเครียดกับการรักษาโรคอยู่แล้ว
Table of Contents
ทำความรู้จัก ความเครียดทางอารมณ์
ความเครียดทางอารมณ์ หมายถึง การตอบสนองทางจิตวิทยา และสังคมวิทยา ต่อการรับรู้ ความเสี่ยง อุปสรรค หรือความต้องการที่มีความสูงเหนือความสามารถในการจัดการของบุคคล มันเป็นส่วนประกอบธรรมชาติของประสบการณ์มนุษย์และสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ความรู้สึกกดดันในการเรียน, การทำงาน, การทำธุรกิจ
- มีปัญหาด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อนหรือคนรัก
- ความยากลำบากทางการเงิน ความเจ็บป่วย โรคที่พบ หรือการเปลี่ยนแปลงสำคัญในชีวิต
เมื่อคนเรามีความเครียดร่างกายจะตอบสนองโดยการปล่อยฮอร์โมนเครียด เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล และแอดรีนาลีน ซึ่งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เช่น เพิ่มการเต้นของหัวใจ การหายใจเร็ว และการเพิ่มความดันโลหิต ตลอดเวลา ความเครียดทางอารมณ์หากเข้าสู่ในระยะเรื้อรังอาจมีผลเสียต่อสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้
การจัดการความเครียดทางอารมณ์ จำเป็นจะต้องระบุแหล่งที่มาของความเครียด และหาวิธีในการจัดการความคิดของตนเอง หรือหากไม่ทราบวิธีก็สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น หรือจิตแพทย์ได้เช่นกัน โดยการจัดการความเครียดทางอารมณ์ นี้สามารถรวมถึงการผ่อนคลายร่างกายต่างๆ เช่น การหายใจเข้าและออกลึกๆ การฝึกสมาธิ เล่นโยคะ การออกกำลังกาย หรืออีกนัยน์หนึ่งอาจเลือกเป็นการพูดคุยกับเพื่อนสนิทที่ไว้ใจ หรือคนที่สามารถขอคำปรึกษาได้อย่างไม่รู้สึกเขินอาย และการหากิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความสุข ความเพลิดเพลิน ให้กับตัวคุณเอง ได้แก่ การพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่เหมาะสมมีประโยชน์ต่อร่างกาย และการทำกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ ที่นำความสุขและความเพลิดเพลินมาให้
เพราะอะไรผู้ติดเชื้อ HIV ถึงมีความเครียด
การที่ผู้ติดเชื้อต้องใช้ชีวิตอยู่กับไวรัสเอชไอวีอย่างไม่ตั้งใจ อาจทำให้เกิดความรู้สึกเครียด ส่งผลต่อความนึกคิด อารมณ์ และสภาพจิตใจภายในได้ อันเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ตัวอย่างเช่น:
- ความกลัวและวิตกกังวล: ผู้ที่มีเชื้อไวรัส HIV อาจรู้สึกกลัว และวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตที่จะเกิดขึ้น เช่น มีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง ว่าจะเจ็บป่วยจากเชื้อไวรัสเอชไอวีเมื่อไหร่ หรือมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และความกลัวเกี่ยวกับการได้รับคำดูถูก เหยียดหยัน การถูกตัดสิน และเลือกปฏิบัติในสังคม เนื่องจากเป็นผู้ติดเชื้อไวรัส เอชไอวี
- หลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม: ผู้ที่มีเชื้อไวรัส HIV หรือบุคคลทั่วไปที่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ มักเข้าใจผิดว่า HIV เป็นโรคที่มีความอันตราย ติดต่อกันได้ง่าย และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ถูกปฏิเสธในด้านของความสัมพันธ์ จึงเลี่ยงการพบปะพูดคุยกับคนอื่น ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และกลายเป็นโรคซึมเศร้า
- ปัญหาการเปิดเผย: การตัดสินใจว่าจะเปิดเผยสถานภาพของเชื้อไวรัส HIV หรือไม่สามารถเป็นเรื่องที่ทำให้บุคคลที่มีเชื้อไวรัสรู้สึกเครียดทางอารมณ์ได้ ความกลัวเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธ การเผชิญกับการเหยียดสีหรือการตอบสนองที่ไม่ดีจากผู้อื่นอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดทางอารมณ์
- การรักษาและการปฏิบัติตามคำสั่งของยา: การจัดการกับเชื้อไวรัส HIV ต้องใช้การรับประทานยาในเวลาที่ต้องการอย่างเคร่งเครียด ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกเครียดทางอารมณ์ ผลข้างเคียงจากยาอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดทางอารมณ์ด้วย
- ปัญหาเรื่องการเงิน: ต้นทุนการรักษาและการรับประทานยาอาจเป็นแหล่งที่สำคัญในการเพิ่มความเครียดทางอารมณ์สำหรับบุคคลที่มีเชื้อไวรัส HIV โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาไม่สามารถเบิกจ่ายได้
โดยรวมแล้ว การมีชีวิตอยู่กับเชื้อไวรัส HIV สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดทางอารมณ์ได้ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของบุคคลได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ที่มีเชื้อไวรัส HIV จะต้องมีการเข้าถึงการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตและทรัพยากรที่ช่วยให้พวกเขาจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้
แบบไหนถึงจะเรียกว่ามี ความเครียดทางอารมณ์
เมื่อผู้ติดเชื้อรู้สึกเครียด ร่างกายจะมีผลจากปฏิกิริยาตอบสนองทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ
ความเครียดทางอารมณ์ ที่ส่งผลต่อสุขภาพกาย
ภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน อาจกระตุ้นให้ระบบประสาททำงานผิดปกติ จนเกิดอาการ ดังต่อไปนี้
- ปวดศีรษะ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
- เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ผมร่วง
- ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดอุดตัน
- ปวดเนื้อเมื่อยตัว อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง
- รู้สึกเจ็บหน้าอก หรือมีอาการเริ่มต้นของโรคหัวใจ
- มีอาการกำเริบเพิ่มขึ้น หากมีโรคอื่นแทรกซ้อนอยู่
ความเครียดทางอารมณ์ ที่ส่งผลต่อสุขภาพจิต
เมื่อความเครียดเข้าครอบงำจิตใจของผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี จะรู้สึกหมกมุ่นครุ่นคิด เลิกสนใจสิ่งรอบตัว เช่น
- หงุดหงิดตลอดเวลา จิตใจขุ่นมัว โมโห โกรธง่าย
- มีอาการทางจิต จนกลายเป็นโรคจิตโรคประสาทได้
- ทำงานผิดพลาด หรือสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง
- ขาดสมาธิ ไม่รอบคอบระมัดระวัง จนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- ภาวะเศร้าซึม คับข้องใจ วิตกกังวล ขาดความภูมิใจในตนเอง
- เซลล์ประสาทฝ่อ และลดจำนวนลง ทำให้ความจำและสติปัญญาลดลง
ความเครียดทางอารมณ์ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของบุคคล
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ ดังกล่าวในข้างต้น ไม่เพียงแต่จะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายผิดเพี้ยนไป แต่ยังทำให้พฤติกรรมการแสดงออกของบุคคลเปลี่ยนแปลงด้วย เช่น
- มีพฤติกรรมก้าวร้าว มีความอดทนต่ำ พร้อมมีเรื่องกับคนอื่นได้เสมอ
- มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ นอนหลับยาก หรือไม่หลับไม่นอนต่อเนื่องกันหลายวัน
- รู้สึกอยากปลีกวิเวกเพียงลำพัง ไม่ต้องการสุงสิงกับใคร แม้กระทั่งเพื่อนสนิทหรือครอบครัว
- มีอาการเบื่ออาหาร ไม่ค่อยกินอะไร หรือมีอาการอยากกินอาหารมากผิดปกติ หิวตลอดเวลา
- รู้สึกอยากทำร้ายคนอื่น หรืออยากทำร้ายตัวเอง จนไปถึงความรู้สึกอยากจบชีวิตตัวเองในที่สุด
- หากิจกรรมอื่นทำที่ทำร้ายสุขภาพร่างกาย เช่น สูบบุหรี่จัด ดื่มเหล้าตลอดเวลา เล่นการพนัน หรือเสพยาเสพติด
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
จะทำอย่างไรถ้ามีเซ็กส์กับคนติดเชื้อ HIV
วิธีจัดการความเครียดในผู้ติดเชื้อ HIV
มีหลายวิธีที่จะช่วยจัดการความเครียด ในผู้ติดเชื้อ HIV ได้แก่ ฝึกฝนเทคนิคการผ่อนคลาย การทำสมาธิ การหายใจลึกๆ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ฝึกเล่นโยคะ หมั่นออกกำลังกาย ใส่ใจในเรื่องการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อจัดการความเครียด ซึ่งควรนอนหลับให้ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เชื่อมต่อตัวเองกับผู้อื่น ด้วยการพูดคุยกับเพื่อนสนิท หรือสมาชิกในครอบครัว การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน และการมีกิจกรรมทางสังคม สามารถช่วยลดความเครียดและปรับปรุงอารมณ์ได้ เพื่อที่จะได้เริ่มฝึกฝน การดูแลตนเองให้ใช้เวลาสำหรับกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกสนุกสนาน และผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ เล่นดนตรี ฟังเพลง ก็สามารถช่วยลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพจิตให้ดีขึ้นได้ครับ