BeefHunt พื้นที่ปลอดภัยสำหรับการหาคู่ และสร้างมิตรภาพ

BeefHunt พื้นที่การหาคู่และสร้างมิตรภาพ

ในยุคที่เทคโนโลยีและสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การมีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับชายรักชาย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้พวกเขาสามารถค้นพบและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งในด้านมิตรภาพและความรัก BeefHunt เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือสำหรับการเดทและการสร้างมิตรภาพสำหรับชายรักชาย

CD4 สัมพันธ์ยังไง ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี
|

CD4 สัมพันธ์ยังไง ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี?

CD4 (Cluster of differentiation 4) คือ เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่ควบคุม และต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Glycoprotein อยู่บนผิวเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดที่ทำงานเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย หรือ T-helper หรือ T-Cell โดยมีหน้าที่ ที่สำคัญมาก คือ ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน ต้านทาน และกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะพวกเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส หรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ออกจากร่างกาย

วัยรุ่นในปัจจุบัน มีแนวโน้มติดเชื้อเอชไอวี เพิ่มมากขึ้น

วัยรุ่นในปัจจุบัน มีแนวโน้มติดเชื้อเอชไอวี เพิ่มมากขึ้น

กรมอนามัย เตือนวัยรุ่นให้มีสติ รู้จักป้องกันการตั้งครรภ์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หลังพบวัยรุ่นมีแนวโน้มติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น พร้อมแนะวิธีปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยง

โรคฝีดาษลิง รู้ก่อนป้องกันก่อน

โรคฝีดาษลิง รู้ก่อนป้องกันก่อน

โรคฝีดาษลิง โรคฝีดาษวานร  หรือไข้ทรพิษลิง  (Monkeypox)  เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ซึ่งเกิดจากไวรัสในตระกูลเดียวกันกับไวรัสโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ พบในสัตว์ ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะ ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการรักษาหรือมีวัคซีนป้องกันโดยเฉพาะ แต่สามารถควบคุมการระบาดได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษ ที่สามารถช่วยป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ประมาณ 85% ซึ่งการแพร่ระบาดของโลกฝีดาษ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ ร้อยละ 99 % เป็นผู้ชาย โดยติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้หลายคนให้ความสนใจและวิตกกังวลเป็นอย่างมาก

ผลข้างเคียงของยาเพร็พ (PrEP)
|

ผลข้างเคียงของยาเพร็พ (PrEP)

การป้องกันโรคก่อนการสัมผัสด้วยยาเพร็พ ซึ่งเป็นยาเพื่อป้องกันไม่ให้คุณติดเชื้อเอชไอวี เช่นเดียวกับยาอื่นๆ อาจมีผลข้างเคียง รวมถึงผลข้างเคียงในระยะยาว ฉะนั้นจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับยาเพร็พ และผลข้างเคียงของยา สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่กินยาจะประสบกับผลข้างเคียง ทำให่ยาเพร็พ ยังถือว่าเป็นยาที่มีความปลอดภัยมาก

เอดส์ระยะที่ 2 เป็นอย่างไร

เอดส์ระยะที่ 2 เป็นอย่างไร

เอดส์ระยะที่ 2 หลายคนอาจเข้าใจว่า การติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และโรคเอดส์ (AIDS) เป็นโรคเดียวกัน ดังนั้นบ่อยครั้ง จะใช้คำว่า “เอดส์” แทน “การติดเชื้อเอชไอวี” และเมื่ออ้างถึงระยะของโรค เช่น เอดส์ระยะที่ 1 เอดส์ระยะที่ 2 และเอดส์ระยะสุดท้าย แต่ในความจริงแล้ว การติดเชื้อเอชไอวี ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน หากผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระยะที่ 2 มีการรับประทานยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง ดูแลตัวเองอย่างดี เชื้อเอชไอวีจะไม่พัฒนาเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือระยะเอดส์ กล่าวคือผู้ติดเชื้อเอชไอวีจะไม่กลายเป็นเอดส์ทุกคน และสามารถมีชีวิตอยู่ได้เหมือนกับคนปกติทั่วไปโดยไม่เจ็บป่วยจากโรค

การใช้ยาเพร็พ (PrEP)
|

การใช้ยาเพร็พ (PrEP)

ยาต้านไวรัสเอชไอวีเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งหรือต้านการแบ่งตัวของเชื้อเอชไอวี ช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T-cell มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้สูงสุดถึง 99% หากมีการใช้อย่างถูกวิธี Exposure prophylaxis เป็นยาที่ทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงโรคอื่น โดยก่อนการรับยาต้องมีการประเมินความเสี่ยงจากประวัติของคนไข้ว่าตรงตามเงื่อนไขการรับยาหรือไม่ ประกอบกับการตรวจเลือดตามมาตรฐานสากล(คนไข้ที่จะรับยาจะต้องมีผล HIV เป็นลบ) และยาในกลุ่มนี้ต้องพิจารณาจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น รู้จักยาเพร็พ (PrEP) ยา PrEP ย่อมาจาก pre-exposure prophylaxis หมายถึง การให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีในผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ ก่อนมีการสัมผัสที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากการสัมผัสนั้น การใช้ยาเพร็พ (PrEP) รับประทานตรงเวลาทุกวันไปตลอดช่วงเวลาที่มีความเสี่ยง โดยต้องรับประทานก่อนมีความเสี่ยงอย่างน้อย 7 วัน และต้องรับประทานต่อหลังความเสี่ยงครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 4 สัปดาห์ มีอีกวิธีคือรับประทานยา 2 เม็ด ก่อนมีความเสี่ยง 2-24ชั่วโมง, 1 เม็ดหลังความเสี่ยง 24 ชั่วโมงและอีก 1 เม็ดที่ 48 ชั่วโมงหลังมีความเสี่ยง ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า on-demand PrEP แต่ปัจจุบันยังไม่จัดว่าเป็นวิธีมาตรฐานที่แนะนำให้ใช้โดยทั่วไป สาเหตุที่ต้องรับยาเพร็พ (PrEP)…

ประโยชน์ของถุงยางอนามัย
| |

ประโยชน์ของถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัยมีความสำคัญในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการคุมกำเนิด ในปัจจุบัน มีถุงยางอนามัยให้เลือกใช้ ทั้งแบบสำหรับสตรีและแบบสำหรับบุรุษ  ถุงยางอนามัยคือ? ถุงยางอนามัย (Condom) มาจากภาษาละติน แปลว่า ภาชนะที่รองรับ ทำด้วยวัสดุจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน โดยฝ่ายชายเป็นฝ่ายใช้สวมครอบอวัยวะเพศของตนเอง  และเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้เป็นอันดับต้นๆ สำหรับช่วยป้องกันการคุมกำเนิด และช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  ซึ่งปัจจุบันมีการผลิต และพัฒนาถุงยางอนามัยออกสู่ตลาดจำนวนมาก ในหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งที่มีสีสัน ผิวเรียบ ผิวไม่เรียบ มีกลิ่น และรสผลไม้ รวมทั้งมีรูปทรงที่แปลกตามากขึ้น ซึ่งแต่ละแบบเน้นวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป แนะการใช้ถุงยางอนามัย 4 ขั้นตอน เลือก เก็บ ใช้ ทิ้ง ที่เราทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ เลือก ให้ถูกไซส์ ถุงยางอนามัยมีหลายขนาด ตั้งแต่ ขนาด 49 มิลลิเมตร ขนาด 52 มิลลิเมตร ขนาด 54 มิลลิเมตร และ ขนาด 56 มิลลิเมตร รวมถึง กลิ่น…

ตุ่ม PPE (Pruritic Papular Eruption)

ตุ่ม PPE (Pruritic Papular Eruption)

โรคตุ่มคันในคนที่เป็น HIV ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV จะมีอาการแสดงหลายระดับขึ้นอยู่กับระยะติดใหม่ๆ ถ้ามีการดูแลร่างกายดี ภูมิคุ้มกันยังดีอยู่ ก็จะไม่มีอาการอะไรเหมือนคนปกติทั่วไป ถ้าไม่มีการตรวจเลือดก็จะไม่ทราบว่าผู้นั้นมีเชื้อ HIV อยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หากไม่กินยาต้านไวรัส หรือปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์แนะนำ ภูมิคุ้มกันก็จะลดลง ทำให้มีโอกาสติดเชื้อโรคฉวยโอกาสต่างๆทำให้เจ็บป่วยได้  PPE คืออะไร? PPE ย่อมาจาก Pruritic Papular Eruption in HIV ซึ่ง PPE นั้น มักพบในผู้ป่วย HIV ที่มีอาการมากแล้ว โดยรอยโรค PPE อาจเป็นตัวสะท้อนบอกสถานะของภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยได้ คือการมี PPE อาจหมายถึงภาวะภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยต่ำแล้ว PPE เกิดจากอะไร? ยังไม่ทราบกลไกการเกิดและสาเหตุ ของการเกิด ตุ่ม PPE อย่างชัดเจน เชื่อว่าเป็นปฏิกิริยาการแพ้ของผิวหนังของผู้ป่วยต่อแมลงกัดต่อยเช่นมด ยุง ดังจะเห็นได้ว่า PPE พบได้มากกว่าที่บริเวณนอกร่มผ้า PPE ติดต่อมั้ย  PPE ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ เชื้อ…

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเชื้อเอชไอวีโรคเอดส์
|

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์

ถึงแม้ว่าโรคเอดส์ และเชื้อเอชไอวี ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจะมีมานานมากแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมีความรู้ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวโรคเอดส์ และเชื้อเอชไอวี ทำให้ปัจจุบันต้องมีการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับโรคเอดส์ และเชื้อเอชไอวี หรือการเผยแพร่ความรู้ใหม่ ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง เอชไอวี คืออะไร เชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus) คือ ไวรัสที่จะเข้าไปกัดกินทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคเอดส์ คืออะไร เอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome – AIDS) คือ กลุ่มอาการของการติดเชื้อโรคแทรกซ้อนต่างๆ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่งกายถูกเชื้อเอชไอวีทำลายจนไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายเหล่านี้ได้ สาเหตุการติดเชื้อเอชไอวี สามารถติดเชื้อเอชไอวีโดยการสัมผัสกับเลือด น้ำอสุจิ ของเหลวจากช่องคลอด หรือแม้แต่น้ำนมแม่ สาเหตุการแพร่เชื้อส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์และการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือส่งผ่านจากแม่สู่ลูกระหว่างการตั้งครรภ์ เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเอดส์ และผู้ติดเชื้อ HIV ตัวอย่างเช่น เชื้อเอชไอวี กับโรคเอดส์เป็นคนละตัวกัน HIV คือ เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง  ส่วนโรคเอดส์ คือ โรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เชื้อเอชไอวีทำลาย โรคเอดส์ ยังมีโอกาสรอดชีวิต ปัจจุบันยังไม่มียาที่รักษาโรคเอดส์ได้โดยตรง…