เอชไอวีเป็นโรคหลักๆที่ แพร่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ฉะนั้นถ้าจะประเมินว่าควรตรวจบ่อยแค่ไหน ให้ประเมินจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของแต่ละคนจะดีที่สุด เพราะเอชไอวีไม่ใช่โรคที่อยู่ ๆ จะติดมาเลยเพียงแค่สัมผัสร่างกายคนอื่น แต่ช่องทางการติดจะมาจาก เพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัย และการใช้เข็มฉีดยาซ้ำเป็นหลัก ช่องทางอื่นจะมาจากการที่สารคัดหลั่งใด ๆ เข้าสู่ร่างกายผ่านแผลสดขนาดใหญ่ หรือการรับเลือดของผู้มีเชื้อ แต่สองช่องทางนี้จะมีโอกาสได้น้อยมาก ทำให้เพศสัมพันธ์ยังเป็นช่องทางหลักของการแพร่เชื้อเอชไอวี ฉะนั้นหากใครที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์บ่อยมากนัก หรือมีกับคน ๆ เดียวที่คุ้นเคยกันดี ก็ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจเอชไอวีมากนัก อาจจะตรวจแค่ครึ่งปีครั้ง หรือปีละครั้งเลยก็ได้ เพราะถือว่าไม่ได้มีความเสี่ยงรับเชื้อ แต่สำหรับคนที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยกับคนที่ไม่รู้สถานะผลเลือด ควรเข้าตรวจเอชไอวีเพื่อรับยา PrEP ไปทานเพื่อป้องกันเอชไอวีจะดีที่สุด เพราะจะได้ไม่ต้องตรวจเอชไอวีบ่อยด้วย ที่ต้องตรวจจะมีแค่ช่วงก่อนรับยาไปทานและหลังทานยาครบในครั้งที่ 1 หรือ 2 เท่านั้น หลังจากครั้งที่ 3 เป็นต้นไปแพทย์อาจตัดสินใจจ่ายยาได้เลยโดยที่ไม่ต้องผ่านการตรวจเลือดการตรวจเอชไอวีถือเป็นเรื่องดีเพราะหากตรวจพบจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันที แต่ถ้าเป็นไปได้ให้ป้องกันตัวเองด้วยยา PrEP ก่อนติดเชื้อแต่แรกจะดีกว่า เพราะการป้องกันโรคย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของเอชไอวีที่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ เมื่อไรที่เราควรไปตรวจ เอชไอวี? เอชไอวีถือเป็นโรคที่ไม่ได้ติดง่ายมากนัก เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อโอกาสการติดเชื้อของแต่ละคน เช่น ปริมาณของเชื้อต้นทาง ช่องทางการรับเชื้อ สภาพแวดล้อมที่เชื้อสามารถอยู่ได้ ฯลฯ ฉะนั้นหากจะประเมินว่าควรไปตรวจเอชไอวีหรือไม่ ให้ประเมินจากความเสี่ยงตนอาจได้รับมาก่อนหน้าดีกว่า เช่น ความเสี่ยงจากเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย… Continue reading เราควรตรวจเอชไอวีบ่อยแค่ไหน?