ไขข้อสงสัย Viral Load: ทำไมค่าปริมาณไวรัสถึงสำคัญต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี

beefhunt หาคู่

ในวงการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี คำว่า “Viral Load” หรือ “ค่าปริมาณไวรัส” ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แพทย์ใช้ในการประเมินสถานะสุขภาพ และประสิทธิภาพของการรักษา แล้วทำไมค่าปริมาณไวรัสถึงมีความสำคัญขนาดนั้น?

ไขข้อสงสัย Viral Load ทำไมค่าปริมาณไวรัสถึงสำคัญต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี

Viral Load คืออะไร?

Viral Load หรือ ค่าปริมาณไวรัส หมายถึง จำนวนอนุภาคของไวรัสเอชไอวีในกระแสเลือด การตรวจวัดนี้จะช่วยให้แพทย์ทราบว่ามีไวรัสอยู่ในร่างกายมากน้อยเพียงใด โดยหน่วยที่ใช้มักจะแสดงในรูปแบบ “copies/ml” หรือจำนวนสำเนาของไวรัสต่อมิลลิลิตรของเลือด

Viral Load สำคัญต่อการรักษาเอชไอวีอย่างไร?

ค่าปริมาณไวรัสเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามการตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาต้านไวรัส (Antiretroviral Therapy หรือ ART) สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป้าหมายของการรักษาด้วย ART คือ การลดค่าปริมาณไวรัสในร่างกายให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด หรือที่เรียกว่า “Undetectable” หรือ “ไม่พบปริมาณไวรัส”

เมื่อค่าปริมาณไวรัสอยู่ในระดับที่ตรวจไม่พบ หมายความว่าไวรัสในร่างกายลดลงอย่างมากจนไม่สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันได้ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม การที่ไม่พบไวรัสไม่ได้หมายความว่าหายขาดจากเอชไอวี แต่เป็นการควบคุมไวรัสให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ

ค่า Viral Load ควรอยู่ในระดับไหน?

เป้าหมายในการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี คือ การลดค่าปริมาณไวรัสให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 200 copies/ml หรือต่ำกว่านั้นจนถึงระดับที่ตรวจไม่พบ (Undetectable) ซึ่งหมายถึงค่าปริมาณไวรัสที่ต่ำกว่า 50 copies/ml ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สามารถตรวจพบด้วยการตรวจมาตรฐาน ในระดับนี้ ผู้ติดเชื้อจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น และมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นต่ำมาก

การตรวจวัด Viral Load ควรทำบ่อยแค่ไหน

การตรวจวัด Viral Load ควรทำบ่อยแค่ไหน?

โดยทั่วไป ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เริ่มการรักษาด้วย ART จะต้องได้รับการตรวจวัดค่าปริมาณไวรัสทุก 3-6 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาทำงานได้ผล และค่าปริมาณไวรัสลดลงสู่ระดับที่ปลอดภัย

ค่าปริมาณไวรัสสูง มีผลอย่างไร?

หากค่าปริมาณไวรัสยังคงสูง แม้จะได้รับการรักษา นั่นหมายความว่าการรักษาอาจไม่สามารถควบคุมไวรัสได้ ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การดื้อยา หรือการที่ผู้ติดเชื้อไม่สามารถทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด การมีค่าปริมาณไวรัสสูงยังเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบภูมิคุ้มกันกำลังถูกทำลาย และผู้ติดเชื้อมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ

U=U: Undetectable = Untransmittable

แนวคิด “U=U” เป็นหลักการที่บอกว่า หากผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถรักษาค่าปริมาณไวรัสให้อยู่ในระดับที่ไม่ตรวจพบได้เป็นระยะเวลานาน ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นจะลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ นี่เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยลดการตีตราผู้ติดเชื้อและเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

CD4 สัมพันธ์ยังไง ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี?

การรักษา HIV ด้วยยาต้านไวรัส

Viral Load หรือค่าปริมาณไวรัสเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี การรักษาค่าปริมาณไวรัสให้อยู่ในระดับต่ำไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสุขภาพของผู้ติดเชื้อ แต่ยังช่วยลดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้อีกด้วย ดังนั้นการตรวจวัด และติดตามค่าปริมาณไวรัสเป็นสิ่งที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคนควรใส่ใจ และให้ความสำคัญ